คาเอรุ โยโบ (Kaeru nyōbō) เจ้าสาวกบ ประเทศญี่ปุ่น

คาเอรุ โยโบ (Kaeru nyōbō) เจ้าสาวกบตัวเล็กแสนอ่อนแอแห่งประเทศญี่ปุ่น

“คาเอรุ โยโบ” (Kaeru nyōbō) เป็นกบที่แปลงร่างเป็นหญิงสาวเพื่อทำการแต่งงานกับมนุษย์ แต่ร่างแปลงมักจะตัวเล็กและบอบบาง ไม่สามารถทำงานหนักเหมือนกับมนุษย์ได้เนื่องจากพื้นฐานของมันเป็นกบ ถ้าหากตัวจริงยังไม่ถูกเปิดเผยก็จะสามารถอยู่กันได้เป็นเวลานานหลายปี แต่ถ้าหากตัวจริงถูกเปิดเผยก็มักจะก่อให้เกิดภัยพิบัติตามมาและจบเรื่องราวลงอย่างน่าเศร้า

ตำนานที่น่าสนใจของคาเอรุ โยโบ

เมื่อนานมาแล้ว ชายชราคนหนึ่งอาศัยอยู่กับลูกชายด้วยความอยากจนข้นแค้น ชายชรามักจะพูดเสมอว่ายินดีต้อนรับผู้หญิงทุกคนที่เต็มใจแต่งงานกับลูกชายของเขาโดยที่ไม่สนว่าอีกใยจะเป็นใคร แต่เนื่องจากพวกเขายากจนมาก ทำให้ไม่มีผู้หญิงคนใดเข้ามาในชีวิตของลูกชายเลยสักคนเดียว

วันหนึ่ง ได้เกิดสิ่งที่แสนน่าประหลาดขึ้นเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งมาเยือน พร้อมกับถามว่ายินดีจะรับเธอเป็นเจ้าสาวหรือเปล่า?

ชายชรากับลูกชายยินดีต้องรับหญิงสาวเข้าบ้าน เธอเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้าซึ่งทั้งสองก็คิดว่าน่าแปลกเพราะฝนไม่ได้ตกมานานหลายวันแล้ว แต่พวกเขาก็ให้เธอนั่งที่ข้างกองไฟจนกระทั่งแห้งดี ถึงแม้จะยินดีที่มีเจ้าสาวเข้ามาในบ้านแต่หญิงสาวก็ตัวเล็กมากไม่ต่างจากเด็กอายุ 3-4 ขวบ จนทำงานบ้านหนัก ๆ ไม่ได้ เธอจึงทำงานเฉพาะในส่วนที่ทำไหวเท่านั้น

อยู่มาวันหนึ่ง เธอต้องกลับไปหาครอบครัวเพื่อร่วมพิธีรำลึกถึงพ่อของตัวเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยากจนแต่ชายชราก็หยิบข้าวถุงเล็ก ๆ มอบให้กับเธอเพื่อให้นำไปมอบให้กับครอบครัวในฐานะของขวัญ ถึงอย่างนั้นมันก็หนักมากเสียจนเธอแบกไม่ไหว พวกเขาต้องตวงข้าวออกจนเหลือเพียง 5 ถ้วย เธอจึงสามารถแบกมันไปได้

เธอกล่าวขอบคุณและออกจากบ้านไป ตอนนั้นเองที่ชายชราเริ่มสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้อ่อนแอนักเลยสั่งให้ลูกชายแอบติดตามไปเพื่อดูว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหนกันแน่?

หญิงสาวเดินทางข้ามเมืองแล้วเข้าไปในภูเขา ในขณะที่สามีที่สะกดรอยตามมาเริ่มรู้สึกประหลาดใจเพราะไม่น่าจะมีบ้านเรือนตั้งอยู่ไกลบนภูเขาขนาดนี้ ในที่สุดเธอก็หยุดที่ริมบึง มองซ้าย มองขวา ก่อนที่จะกระโดดลงไปในน้ำ มันทำให้เขาตกใจมากถึงกับรีบวิ่งไปที่ริมบึงแต่น้ำมันมืดจนเขามองไม่เห็นภรรยาของตัวเอง เขาเลยก้มลงเอาหูแนบกับน้ำเพื่อฟังก่อนที่จะได้ยินเสียงเหล่ากบที่ดูเหมือนกับว่าพวกมันกำลังสนทนากันอยู่

เขาจับใจความได้ว่า มีกบตัวหนึ่งบอกว่าที่มันมาช้าเพราะได้รับถุงข้าวหนักมาเลยถ่วงการเดินทาง ก่อนที่ทั้งหมดจะเริ่มพิธีรำลึก มีเสียงคำอธิษฐานของเหล่ากบด้วยบทสวดแบบพุทธศาสนาดังก้องไปทั่วบึง มันทำให้เขาตกใจมาก เพราะดูเหมือนว่าเขาจะถูกหลอกให้แต่งงานกับกบเสียแล้ว

ด้วยความโกรธ เขาหยิบหินโยนลงไปน้ำ เมื่อมันกระทบน้ำกระเซ็นเสียงสวดมนต์ก็หยุดลง เขารีบกลับไปที่บ้านแล้วเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้กับผู้เป็นพ่อฟัง

กลางดึกคืนนั้น เธอกลับมาที่บ้านและขอโทษที่ใช้เวลากลับไปบ้านนาน และเล่าให้ฟังว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมีก้อนหินตกใส่หัวนักบวช ตอนนั้นเองที่สามีทนไม่ไหวต้องโพล่งออกมาว่าเขารู้ความจริงทั้งหมดแล้วและก้อนหินนั้น เขาเองที่เป็นคนโยน

เมื่อรู้ว่าสามีรู้ความจริง เธอตกใจมากพร้อมกับปิดใบหน้าด้วยความเขินอายก่อนจะกลับคืนร่างเป็นกบ ร้องไห้คร่ำครวญและกระโดดหนีหายออกจากประตูบ้านไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เคยเห็นเธออีกเลย...