เลดี้โกยโก๋ย (Lady Koi Koi) ผีรองเท้าส้นสูงสีแดงผู้ทารุณกรรมเด็ก ๆ ประเทศไนจีเรีย
โรงเรียนประจำของประเทศไนจีเรีย กานาและบางส่วนของทวีปแอฟริกาใต้ เหล่านักเรียนต่างพากันหวาดกลัววิญญาณอาฆาตที่เรียกกันว่า “เลดี้โกยโก๋ย” (Lady Koi Koi) เสียงส้นรองเท้าส้นสูงสีแดงที่ดังก้องในความมืดมิดกลางดึกเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ามันกำลังตามหาเหยื่อรายใหม่
ตำนานที่น่าสนใจเกี่ยวกับเลดี้โกยโก๋ย
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ณ โรงเรียนประจำสำหรับเหล่าวัยรุ่นแห่งหนึ่งในประเทศไนจีเรียได้ต้อนรับครูคนใหม่ที่กล่าวกันว่าสวยเป็นอย่างมาก มีเด็กนักเรียนหลายคนแกล้งทำเป็นสะดุดลมเพียงแค่จะได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นานนักเหล่านักเรียนก็ค้นพบว่าเธอได้ซ่อนปีศาจที่น่ากลัวเอาไว้
หลังจากที่ประตูห้องเรียนปิดสนิท เธอมักใช้ความรุนแรงและโหดร้ายกับเด็กนักเรียนที่ทำผิด ดูถูกพวกเขาและมักจะค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะทำให้นักเรียนต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด นักเรียนทุกคนต่างหวาดกลัวและพยายามบอกกับครูหรือผู้อำนวยการ ถึงอย่างนั้นความรุนแรงกลับถูกเพิกเฉย อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อยากเชื่อคำพูดของเด็กนักเรียนหรือไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่สวยจะชั่วร้ายถึงเพียงนั้น
เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำทำให้นักเรียนไม่สามารถหนีกลับบ้านได้ นักเรียนจึงต้องปกป้องตัวเองด้วยการซ่อนอยู่ตามห้องเรียนคอยเงี่ยหูฟังเสียงส้นรองเท้าสีแดงของเธอที่กระทบพื้นที่ดังอย่างเป็นเอกลักษณ์ว่า “โกยโก๋ย” ทำในพวกเขารู้ว่าเธอเข้ามาใกล้เพื่อที่จะได้ซ่อนอย่างมิดชิดยิ่งขึ้น ต่อมาพวกเขาจึงเรียกเธอว่า “เลดี้โกยโก๋ย” และไม่ควรออกจากห้องจนกว่าเสียงดังกล่าวจะเงียบหายไป
วันหนึ่งหลังจากที่เธอตีนักเรียนคนหนึ่งอย่างโหดร้ายจนถึงขนาดต้องหามเข้าโรงพยาบาล เด็ก ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งไปร้องเรียนผู้อำนวยการ แต่เขากลับลุ่มหลงในตัวเธอจนเพิกเฉยและเชื่อว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น
นักเรียนที่ทนไม่ไหวจึงตัดสินใจว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คืนนั้นพวกเขาซุ่มโจมตีเลดี้โกยโก๋ย คนหนึ่งยัดผ้าใส่ปากของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ตะโกนขอความช่วยเหลือ อีกคนใช้กระสอบคลุมร่างเธอเอาไว้แล้วช่วยกันทุบตีเธอด้วยอะไรก็ตามที่หาได้ในบริเวณนั้น ไม่นานหลังจากนั้นร่างของเธอก็หยุดดิ้นรนและเสียชีวิต เหล่านักเรียนที่ตกใจได้ทิ้งร่างของเธอเอาไว้ด้านนอกของประตูโรงเรียนโดยหวังว่าความผิดในครั้งนี้จะถูกโยนไปให้กับโจรที่เข้ามาขโมยของ
ดูเหมือนเรื่องราวจะจบลงด้วยดี คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นถูกโยนไปให้โจรย่องเบาแปลกหน้า ส่วนครูคนใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่ก็ดูแลพวกเขาด้วยความรักและเอาใจใส่
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นนักเรียนคนหนึ่งก็ได้ยินเสียงส้นร้องเท้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเลดี้โกยโก๋ย ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองคิดไปเองจึงนอนต่อ แต่ปรากฏว่าในตอนเช้าเพื่อร่วมชั้นคนหนึ่งได้หายตัวไปและตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนนักเรียนที่ช่วยกันรุมทำร้ายเลดี้โกยโก๋ยก็ค่อย ๆ หายไปตัวไปทีละคนและทุกครั้งก็จะได้ยินเสียงส้นร้องเท้าของเลดี้โกยโก๋ย ในขณะที่นักเรียนคนหนึ่งอ้าว่าเห็นรองเท้าส้นสูงของเธอเดินอยู่ในโถงทางเดิน แต่เมื่อตามไปรองเท้านั้นก็หายไป
เมื่อรู้ตัวแล้วว่าเลดี้โกยโก๋ยกำลังมองหาพวกเขา นักเรียนที่ก่อเหตุรุมทำร้ายคนสุดท้ายจึงได้ไปสารภาพความผิดกับผู้อำนวยการและคนอื่น ๆ ว่าได้ทำอะไรลงไป แต่ไม่มีใครเชื่อ เพราะไม่มีใครได้ยินเสียงของเลดี้โกยโก๋ยตามทางเดินเหมือนกับเขา เขาจึงขังตัวเองอยู่ในห้องหลังจากฟ้ามืด แต่ในตอนกลางดึกนักเรียนคนอื่น ๆก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเขา แต่ก็กลัวเกินกว่าที่จะออกไปช่วย วันต่อมาก็มีการพบศพของนักเรียนคนดังกล่าวที่ถูกทุบตีจนบิดเบี้ยวอยู่ในสถานที่เดียวกับที่พบร่างไร้วิญญาณของเลดี้โกยโก๋ย
เรื่องราวของเลดี้โกยโก๋ยได้แพร่กระจายออกไป นักเรียนที่ได้ฟังเรื่องนี้ก็จะเริ่มได้ยินเสียงส้นรองเท้าของเลดี้โกยโก๋ย หากใครได้ยินพวกเขาก็จะหายตัวไป!!!
มีนักเรียนที่อ้างว่าได้แอบมองออกไปข้างนอกโถงทางเดินในขณะที่ได้ยินเสียงส้นรองเท้าของเลดี้โกยโก๋ยแล้วพบว่าเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงที่สวยงามอีกต่อไป ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว มีเลือดไหลอาบและเหมือนกับกำลังคำรามในขณะที่เดิน บางคนเชื่อว่าสิ่งที่เห็นคือใบหน้าของเธอหลังจากที่ถูกทุบตี ในขณะที่อีกหลายคนเชื่อว่ามันคือใบหน้าของสัตว์ร้ายที่เธอได้พยายามซ่อนมันเอาไว้
หลังจากนั้นไม่นานนัก โรงเรียนประจำแห่งนี้ก็ได้ปิดตัวลงและนักเรียนได้ถูกส่งตัวไปยังโรงเรียนประจำแห่งอื่น แต่เหล่านักเรียนก็ได้นำเรื่องราวของเลดี้โกยโก๋ยไปเล่าต่อและต่อมาไม่นานนักก็ได้มีเสียงส้นรองเท้าสีแดงดังขึ้นในโรงเรียนหลายสิบแห่ง ราวกับว่าเลดี้โกยโก๋ยกำลังเดินเตร่ไปตามโถงทางเดินเพื่อค้นหาเด็ก ๆ มาทำการทุบตีและทรมานเหมือนกับที่เธอทำในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่...
Denbigh Castle ปราสาทที่เต็มไปด้วยตำนานและภูตผีแห่งงประเทศเวลส์ ปราสาทผีดุที่สุดของประเทศที่เจ็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ไม่ควรพลาด...