ตำนานผีล้านนา โป๊กกะโหล้งวิญญาณแห่งพงไพร
“โป๊กกะโหล้ง” หรือ “ปักกะโหล้ง” เป็นชื่อของผีที่มักปรากฏตัวอยู่ทางภาคเหนือ เป็นล้านนาโบราณ จัดอยู่ในกลุ่มของผีป่า มักพบได้ในทุ่งนาหรือกลางป่าเขา เร่ร่อนเดินทางไปเรื่อยอยู่ไม่ติดที่ ทำให้การหาตัวผีโป๊กกะโหล้งแบบเจาะจงพื้นที่เป็นไปค่อนข้างยาก โดยพื้นฐานผีโป๊กกะโหล้งจะไม่ทำร้ายมนุษย์ ยกเว้นคนผู้นั้นจะทำการเบียดเบียนธรรมชาติ และในบางครั้งผีโป๊กกะโหล้งยังมอบทรัพย์สินเงินทองของมีค่าให้กับคนที่พวกมันถูกใจอีกด้วย ส่วนเรื่องราวของผีโป๊กกะโหล้งจะมีความน่าสนใจอย่างไร ติดตามอ่านพร้อมกันจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย...
การถือกำเนิดของผีโป๊กกะโหล้ง
ต้นกำเนิดของผีโป๊กกะโหล้ง มีหลายแบบแต่ส่วนใหญ่เชื่อว่า ในสมัยก่อนหากครอบครัวใดมีลูกหลายคนจนไม่มีปัญญาเลี้ยงก็จะนำไปปล่อยเอาไว้กลางป่า บางคนอาจป่วย หรือถูกสัตว์ร้ายตาย แต่ถ้าหากรอดมาได้ก็จะปรับตัวเข้ากับป่าอาศัยอยู่ตามยถากรรม คนเหล่านี้จะกลายมาเป็นลิงป่าประเภทหนึ่ง มีขนสีดำ และกลายมาเป็นผีโป๊กกะโหล้งในที่สุด
อีกความเชื่อหนึ่งเกี่ยวกับผีโป๊กกะโหล้ง คือ เดิมที่เป็นชาวเขาที่เคยอาศัยอยู่กับธรรมชาติ โดยปล่อยให้ผมเผ้ารุงรัง ไม่ได้ตัดเก็บให้เรียบร้อยเหมือนกับในปัจจุบัน ชาวเขาเหล่านี้จะท่องเที่ยวหากินตามธรรมชาติไปเรื่อย โดยมี “โป๊กกะโหล้ง” หรือกะลาแห้งคู่ใจ เป็นภาชนะในการใส่อาหาร เมื่อเสียชีวิตลง ร่างกายเน่าเปื่อยสลายกับสู่ผืนดิน ส่วนจิตวิญญาณก็ได้กลับสู่ธรรมชาติ กลายมาเป็นภูตผู้พิทักษ์ผืนป่าตามเวรกรรมที่เคยทำเอาไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่...
ลักษณะทางกายภาพของผีโป๊กกะโหล้ง
ผีโป๊กกะโหล้งมีหน้าตาที่ประหลาดแตกต่างกันออกไปเฉพาะตัว เชื่อกันว่าบางตัวมีขาเดียว ตาเดียว แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ พวกมันสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วมากรวดเร็วราวลมพัด มีความสามารถในการแปลงกายได้ และบางตนเอาอาจพกพิณเปี๊ยะ ที่เป็นเครื่องดนตรีของทางภาคเหนือมาด้วย บางครั้งบางว่าผีโป๊ก เดินขากะเผลก ไม่มีสะบ้าหัวเข่า เคลื่อนที่ด้วยการห้อยโหนกิ่งไม้ และมีอำนาจลึกลับ นอกจากนี้ยังมักปรากฏตัวพร้อมกับนกชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “หัสแม่เท้าคน”
ผีโป๊กกะโหล้ง เป็นอันตรายกับมนุษย์หรือเปล่า!?
โดยพื้นฐานแล้ว ผีโป๊กกะโหล้งเป็นผีขี้แกล้ง ชื่นชอบการแกล้งบังตามนุษย์ บางครั้งหากมีคนมาตะโกนเรียกกันในป่า ผีโป๊กกะโหล้งมักจะที่จะเลียนแบบเสียงตะโกนรับ หลอกคนที่ขานรับหลงทิศทางจากเป้าหมาย ทำให้ในสมัยก่อนการตะโกนเสียงดังในป่า เพื่อเป็นการป้องกันผีโป๊กกะโหล้งนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ผีโป๊กกะโหล้งมักจะเข้าทำร้ายมนุษย์ก็ต่อเมื่อผู้นั้น ทำร้ายสัตว์ ไล่ล่าเอาชีวิตคนอื่น หรือตัดไม้ ทำลาย รุกล้ำพื้นที่ป่า ผีโป๊กกะโหล้งจะใช้โป๊กกะโหล้งคู่ใจเป็นอาวุธทำการไล่ล่าเอาชีวิตของคนเหล่านั้น พร้อมกับร้องว่า “ปัก..กะโหล้ง ปัก..กะโหล้ง” นอกจากนี้ ผีโป๊กกะโหล้งยังเกลียดมนุษย์ที่ชอบทำพิเรนในป่า เช่น ขึ้นไปขี่บนตอไม้แล้วสมมุติว่ากำลังขี่ช้างอยู่ หรือตัดไม้ขวางทางเดินในป่า เป็นต้น การกระทำเหล่านี้ อาจทำให้ผีโป๊กกะโหล้งโกรธจนเข้ามาทำร้ายได้เช่นกัน
วิธีป้องกันตัวเอง และการขับไล่ผีโป๊กกะโหล้ง
สำหรับวิธีการขับไล่ ป้องกันตัวเองจากผีโป๊กกะโหล้งนั้น สามารถทำได้ทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของผีโป๊กกะโหล้งดังแว่วมา โดยการรีบเอา “ฟืนซากไฟ” มาเสกด้วยพระคาถาของ “ปู่เส็ดค่ำลัวะ” ที่ชาวล้านนานิยมใช้ในการขับไล่ผีป่าทุกชนิดว่า
“แซวเด็ดแด้วแม่....ก้อนจ้อ หง่อนจ๋อ.........อมสวาห้ะเท้ก”
จากนั้นให้ทำการขว้างฟืนท่อนนั้นเข้าใส่ผีโป๊กกะโหล้งให้เต็มแรง เพื่อเป็นการขับไล่พวกมันให้หนีไป
ผีโป๊กกะโหล้ง ให้ทานคนดี สังหารคนชั่ว!
พิณเพี๊ยะ
มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปรากฏตัวของผีโป๊กกะโหล้งว่า มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่เพียงสองคน แม่ผู้เป็นม่ายและลูกสาว เมื่อถึงฤดูทำนาลูกสาวได้ไปนอนเฝ้านาที่เพิงกลางนา แต่เมื่อถึงช่วงกลางดึกเธอได้ยินเสียงคนดีดพิณเปี๊ยะแว่วมาแต่ไกล พอเสียงใกล้เข้ามาปรากฏว่าคนที่ดีดพิณเป็นชายชราหน้าตาน่าเกลียด ผมเผ้ารุงรัง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกัน โดยขอทำการแปลบทสนทนาจากภาษาเหนือ มาเป็นภาษากลางเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ ดังต่อไปนี้
ชายชรา “สาวน้อยที่นอนเฝ้านา นอนไม่หลับหรือ!?”
หญิงสาว : “ยังไม่หลับจ้ะปู่”
ชายชรา : “กะโหลกที่ใช้ทำพิณเปี๊ยะนั้นทำด้วยอะไร!?”
หญิงสาว : “คันทำด้วยเงินและทองค่ะ”
ชายชรา : “หลักของพิณเปี๊ยะนั้นทำด้วยอะไร!?”
หญิงสาว : “หลักเงินและทองค่ะ”
ชายชรา : “สายพิณเปี๊ยะนั้นทำด้วยอะไร!?”
หญิงสาว : “สายเงิน สายทองค่ะ”
เมื่อชายชราได้ยินคำตอบของหญิงสาวด้วยความสุภาพก็พออกพอใจ เดินดีดพิณหายเข้าไปในป่า ในตอนรุ่งเช้าเมื่อหญิงสาวตื่นขึ้นมาปรากฏว่ามีไหใบหนึ่งข้างกาย ในนั้นเต็มไปด้วยเงินและทองมากมาย หญิงสาวรีบกลับบ้านไปบอกแม่ แม่ตกใจมาก และบอกว่าโชคดีมากที่ลูกสาวรอดมาได้ เพราะที่จริงแล้วชายชราคนนั้นคือผีโป๊กกะโหล้งนั่นเอง
หลังจากที่ข่าวลือเรื่องผีโป๊กกะโหล้งได้มอบเงินทองให้กับหญิงสาวแพร่ออกไป ก็มีหญิงม่ายคนหนึ่งอยากได้สมบัติบ้างจึงได้ลูกสาวออกไปนอนเฝ้านาบ้าง แล้วได้พบกับผีโป๊กกะโหล้งเช่นกัน แต่เนื่องจากเธอไม่ได้เป็นคนสุภาพอ่อนหวานเหมือนกับหญิงสาวคนแรก ทำให้ตอบกลับทุกคำถามด้วยความฉุนเฉียว พร้อมกับออกปากไล่ผีโป๊กกะโหล้งที่ถามมากก่อนจะกลับเข้าไปในเพิง พอรุ่งเช้าหญิงม่ายมาหาลูกสาว แล้วก็ต้องกรีดร้องจนสุดเสียงเมื่อพบร่างไร้วิญญาณ ที่มีสภาพราวกับถูกสัตว์ร้ายฉีกกัดกินทั้งตัว
ผีโป๊กกะโหล้ง กับการปลูกจิตสำนึกความเชื่อให้เคารพผืนป่า
ผีโป๊กกะโหล้ง เป็นเสมือนกับตัวแทนของผู้ดูแลรักษาผืนป่า ที่จะคอยจัดการกับมนุษย์ที่ล่วงละเมิดการเข้าป่าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่ถูกไม่ควร ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในวิธีการปลูกจิตสำนึกของผู้คนให้รัก นับถือ และช่วยการดูแลทรัพยากรของผืนป่าเอาไว้ให้นานเท่านาน...