มนุษย์หมาป่าโพลีลีน (Poligny Werewolves) คู่หูกระหายเลือดแห่งประเทศฝรั่งเศส
“มนุษย์หมาป่าโพลีลีน” (Poligny Werewolves) เป็นการพิจารณาคดีมนุษย์หมาป่าในปี 1521 ณ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อชายสองคน “ปิแอร์ เบอร์โกต์” (Pierre Burgot) และ “มิเชล แวร์ดัน” (Michel Verdun) ถูกตั้งข้าหาการใช้เวทมนตร์และกินเนื้อมนุษย์
ในระหว่างการพิจารณาคดี เบอร์โกต์ได้ให้การรับสารภาพอย่างครบถ้วน เขาบอกว่าเมื่อ 19 ปี ก่อน ณ เมืองโปลิญญี พายุได้ทำให้ฝูงแกะของเขากระจัดกระจายไป เขาขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ แล้วออกไปตามหาแกะที่หายไปก่อนที่จะได้พบกับทหารม้าชุดดำสามคนขี่ม้าเข้ามาหาพร้อมกับยื่นข้อเสนอสามประการให้ได้แก่ เขาจะพบกับแกะที่หายไป เขาจะได้รับการปกป้องและปราศจากปัญหาใด ๆ อีกต่อไป ข้อสุดท้ายคือเขาจะได้รับสิ่งของมีค่า สัญญาที่แสนล่อใจเหล่านี้จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงเพียงแค่เขาสัญญาว่าจะรับใช้เฉพาะเจ้านายของพวกเขาเท่านั้น เขาตกลงรับข้อเสนอที่จะพบกับเจ้านายของทหารเหล่านั้น
หลังจากออกค้นหาแกะที่หายไปในที่สุดเขาก็พบพวกมันทั้งหมด แต่เมื่อไปพบกับเจ้านายของทหารเหล่านั้นที่มารู้ที่หลังว่ามีชื่อว่า “มอยเซ็ท” (Moyset) กลับพบว่าที่จริงแล้วคือมารร้าย เขาสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อปีศาจและละทิ้งศาสนาคริสต์พร้อมกับจุมพิตมือซ้ายที่สีผิวดำมืดและเย็นเฉียบราวกับซากศพ
เขาให้การรับใช้ปีศาจอยู่เป็นเวลานานถึงสองปี หลังจากนั้นฝูงแกะของเขาก็ได้รับการคุ้มครองเป็นอย่างดี แต่ไม่นานนักหลังจากนั้นเขาก็เริ่มเบื่อหน่ายกับวิถีชีวิตนั้นจึงได้หวนกลับไปเข้าโบสถ์ แต่ต่อมาได้รับการชักชวนจากแวร์ดันให้ต่อสัญญากับปีศาจเพื่อรับทรัพย์สินมีค่า พวกเขาไปในป่าและจัดพิธีแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าขึ้น โดยเขาได้อธิบายพิธีกรรมเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ในป่าใกล้กับแซสเทล ชาร์นอน เราพบกับคนอื่น ๆ อีกหลายคนซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้จัก เราร่วมกันเต้นรำ พวกเรามีเทียนสีเขียวที่มีเปลวเพลิงสีน้ำเงินอยู่ในมือ แวร์ดันชักชวนให้ข้าพเจ้าเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบมากที่สุดและด้วยความหลงผิดว่าจะได้ทรัพย์สินมีค่า ข้าพเจ้าได้ทำการเปลื้องผ้าออก เขาทาครีมให้กับข้าพเจ้าและมันทำให้ข้าพเจ้าเชื่อว่าตัวเองจะกลายร่างเป็นหมาป่า
ในตอนแรกข้าพเจ้าหวาดกลัวกับเท้าทั้งสี่ของหมาป่าและขนที่ขึ้นปกคลุมไปทั่วจนหมดในคราวเดียว แต่ฉันกลับพบว่าตัวเองสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วราวกับสายลม สิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ผู้ทรงพลังของเรา ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ได้เห็นเขาจนกระทั่งกลับคืนสู่ร่างของมนุษย์อีกครั้งก็ตาม ซึ่งแวร์ดันเองก็ได้กลายร่างเช่นเดียวกัน
การกลายร่างนี้เกิดขึ้นราว 1-2 ชั่วโมง แวร์ดันได้ทาครีมให้กับข้าพเจ้าอีกครั้งและไวกว่าความคิดเราก็กลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง อาจารย์ของเราก็ได้ถวายการคำนับแก่เรา มอยเซตมอบพลังให้ฉันกับแวร์ดันโดยกิลเลมิน (Guillemin) ปรมาจารย์ของเขาเอง”
เขายืนยันว่าไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเลยหลังจากที่ได้กลายร่างเป็นหมาป่าแล้วออกไปผจญภัย ไม่เหมือนกับคำให้การของแม่มดและมนุษย์หมาป่าที่ถูกกล่าวหาคนอื่น ๆ นอกจากนี้ เขายังบอกว่าตัวเองและเพื่อนกลายร่างเป็นหมาป่าแล้วออกไปท่องเที่ยวกันหลายครั้ง
นอกจากนี้ เขายังอ้างว่าเคยจับเด็กชายอายุ 6-7 ขวบ ได้ โดยตั้งใจว่าจะทำการฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ แล้วกินเสีย เด็กชายกรีดร้องเสียงดังเป็นอย่างมากจนทำให้เขาต้องเปลี่ยนความคิดกลับไปสวมเสื้อผ้าและทาตัวเองด้วยครีมขี้ผึ้งเพื่อเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์หลบหนีการจับกุม
พวกเขายังเคยร่วมกันจู่โจมผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเก็บถั่วอยู่เป็นชิ้น ๆ และสังหารชายคนหนึ่งที่พยายามให้การช่วยเหลือเธอ พวกเขายังจู่โจมพร้อมกับกินเด็กหญิงอายุราว 4 ขวบ เหลือทิ้งเอาไว้เพียงแขนข้างเดียวโดยที่เขาคิดว่าเนื้อของเธอมีรสชาติที่อร่อยเป็นพิเศษ พวกเขายังให้การว่าเคยบีบคอของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งและดื่มเลือดของเธอ แม้ว่าจะอยู่ในร่างของมนุษย์ดูเหมือนว่าความกระหายเลือดของพวกเขาก็ไม่ได้ลดน้อยลง เขาอ้างว่าเคยใช้สองมืดจู่โจมเด็กผู้หญิงวัย 9 ขวบ ที่กำลังกำจัดวัชพืชในสวน ถึงแม้ว่าเด็กน้อยจะร้องขอชีวิต แต่เขากลับสังหารเธอด้วยการหักคอ อีกทั้งยังจู่โจมใส่แพะทั้งด้วยคมเขี้ยวหรือมีดอีกด้วย
เขายังบอกกับผู้สอบสวนว่าในการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า เขาจะต้องเปลือยเปล่าร่างกาย แต่แวร์ดันกลับสามารถทำได้ถึงแม้ว่าจะยังคงสวมใส่เสื้อผ้าอยู่และพวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อกลับคืนสู่ร่างมนุษย์แล้วขนจำนวนมากที่ปกคลุมร่างกายอยู่ได้หายไปไหน
หลังจากที่ได้สารภาพการกระทำความผิดอันน่าสะอิดสะเอียน พวกเขาได้ถูกตัดสินให้ทำการประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น ในขณะที่รูปถ่ายของพวกเขาได้ถูกนำมาแขวนเอาไว้ในโบสถ์ในฐานะของเครื่องเตือนใจให้คนทั่วไปตระหนักว่ามนุษย์ที่ถูกมารร้ายครอบงำสามารถที่จะลงมือทำเรื่องที่แสนเลวร้ายได้มากกว่าที่หลายคนคิด...
อัปสรา (Apsaras) นางสวรรค์ยั่วมนุษย์ให้จมสู่บาป แห่งประเทศอินเดีย