ตำนานบ้านกระจก (The House of Mirrors) กับเรื่องราวอาถรรพ์แห่งเสียงกรีดร้องของหญิงสาวผู้ถูกฆาตกรรมแห่งประเทศสเปน
ตำนานบ้านกระจก (The House of Mirrors) เป็นเรื่องราวที่น่าขนลุกเกี่ยวกับคฤหาสน์ร้างในเมืองกาดิซ ประเทศสเปน ที่กล่าวกันว่ามีผีของเด็กสาวที่ถูกแม่ของตัวเองฆ่าตายสิงสู่อยู่
ตำนานสยองขวัญของบ้านกระจก แห่งประเทศสเปน
มีคฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของกาดิซ ที่ถูกเรียกว่า “La Casa de los Espejos” หรือที่เรียกกันว่า “บ้านกระจก” มีลักษณะเป็นบ้านสามชั้นที่สง่างามพร้อมสถาปัตยกรรมที่ชวนให้นึกถึงอดีตอันน่าสนใจของประเทศสเปน ถึงแม้จะสวยงาม แต่.. ผู้คนกลับพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ในตอนกลางคืน
เรื่องราวเล่าขานว่าเมื่อหลายปีก่อน คฤหาสน์หลังนี้เป็นสถานที่อยู่อาศัยของพลเรือเอกของกองทัพเรือสเปน กับภรรยาและลูกสาวตัวน้อย แต่ด้วยงานของเขาทำให้มักไม่ได้อยู่บ้านเป็นเวลานานหลายเดือนในขณะที่เดินทางจากท่าเรือหนึ่งไปยังอีกท่าเรือหนึ่งในต่างประเทศ
พลเรือเอกรักและหวงแหนลูกสาวคนสวยมากกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาต้องออกเดินทาง เธอก็จะมาส่งพร้อมกับโบกมือลาด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม เธอเองก็คิดถึงเขามากกว่าทุกสิ่งบนโลกเช่นกัน
เนื่องจากลูกสาวชื่นชอบการเก็บสะสมกระจก ทำให้ทุกครั้งที่กลับจากการเดินทางเขาก็จะนำกระจกใบใหม่มามอบให้เป็นของขวัญเสมอ เมื่อผ่านไปหลายปีในที่สุดทั้งคฤหาสน์ก็เต็มไปด้วยกระจกที่แสนสวยงาม เธอสนุกกับการเดินไปรอบบ้านพร้อมกับจ้องมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกแต่ละบาน ในขณะเดียวกันพ่อของเธอก็ชอบอวดว่ามีลูกสาวที่งดงามมากที่สุดในเมืองเช่นกัน
หลายปีผ่านไป ฝ่ายภรรยาของเขากลับแก่ชราลงและสูญเสียความงดงามของวัยเยาว์ ทำให้เธอเกลียดชังที่จะเห็นตัวเองในกระจกและเริ่มรู้สึกอิจฉาลูกสาวของตัวเอง เธอจมดิ่งลงสู่ความหดหู่ใจ ก่อนที่จะกลายมาเป็นความเคียดแค้นที่สะสมมากขึ้น จนทำให้ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันบ่อยครั้งในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่บ้าน
สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือ ฝ่าผู้เป็นแม่ปักใจเชื่อว่าสามีรักลูกสาวมากกว่าที่รักตัวเอง สิ่งนี้ทำให้ความมืดถือกำเนิดขึ้นในจิตใจมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นความพยาบาทและริษยาอันน่าสะพรึงกลัว…
ในวันหนึ่ง ก่อนที่พลเรือเอกจะกลับมาจากการเดินทางเป็นครั้งสุดท้าย ภรรยาก็ได้วางแผนที่ร้ายกาจ เธอวางยาพิษในเครื่องดื่มของลูกสาวที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับเด็กสาวเป็นเวลายาวนานหลายวัน เลือดทะลักไหลออกจากปากและดวงตา ก่อนที่อาการจะดิ่งลงสู่โคม่ากระทั่งเสียชีวิตไปในที่สุด เพียงเพราะผู้เป็นแม่เชื่อว่าการกำจัดลูกสาวทิ้งไปจะทำให้ความรักระหว่างเธอกับสามีกลับมางอกเงยอีกครั้ง
เมื่อเขากลับมาในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขาได้พบภรรยามายืนรออยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ พร้อมกับแจ้งข่าวร้ายอย่างใจเย็นว่าลูกสาวได้ติดโรคร้ายและเสียชีวิตไปแล้ว สร้างความเสียใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องใช้เวลา 2-3 วัน กับการนั่งจมอยู่กับห้องความคิดอยู่ในห้องนอนของลูกสาว พร้อมกับร้องไห้ด้วยความขมขื่น
ดึกวันหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังนั่งเช็ดน้ำตาของตัวเอง บังเอิญเหลือบไปเห็นกระจกบานหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนังห้องนอน ในนั้นมีร่างของลูกสาวที่รักกำลังยืนมองเขาอยู่ ก่อนที่ฉากในนั้นจะเปลี่ยนไปกลายเป็นเผยให้เห็นภรรยาของเขากำลังวางยาพิษในเครื่องดื่มและยื่นให้กับลูกสาว หลังจากนั้นเขาก็เห็นลูกสาวกำลังทุกข์ทรมาน มีเลือดไหลออกจากปากและดวงตา กรีดร้องอย่างเจ็บปวด โดยมีภรรยามองดูอยู่อย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งเธอเสียชีวิต
ความเป็นจริงอันน่าสะพรึงกลายเป็นความโกรธสุดขีด เขาวิ่งลงไปชั้นล่างและคว้าแขนภรรยามาตะคอกถามให้สารภาพ แล้วเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อมอบตัวให้เข้าคุก ในท้ายที่สุดเธอถูกพิพากษาในคดีอาชญากรรมการสังหารลูกสาวของตัวเองและถูกขังลืมให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่หลังลูกกรงห้องขังอันสกปรกเพียงลำพัง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทนอาศัยอยู่ในบ้านที่ลูกสาวถูกภรรยาสังหารอย่างเหี้ยมโหด กระจกแต่ละบานในบ้านตอกย้ำความงามของลูกสาวและในที่สุดเขาก็ไม่สามารถเอาชนะความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกได้ เขาจึงย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่นทำให้บ้านถูกทิ้งให้รกร้างอย่างยาวนานหลายทศวรรษ ในขณะที่ผนังบ้านยังคงเต็มไปด้วยบานกระจกเหมือนเดิม
ข่าวลืออาถรรพ์ของคฤหาสน์กระจก
ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงอ้างว่า ในช่วงกลางดึกพวกเขามักได้ยินเสียงกรีดร้องดังก้องไปรอบบ้านหลังนี้ มันฟังดูคล้ายกับเด็กผู้หญิงที่กำลังร้องด้วยความเจ็บปวด มีคนใจหลาหลายคนเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อตรวจสอบหาที่มาของเสียงลึกลับที่ดูเหมือนเสียงนั้นจะดังมาจากชั้นบนสุดของคฤหาสน์ ว่ากันว่าเสียงเหล่านั้นดังลอดออกมาจากกระจกแต่ละบาน
มีคนที่อยากรู้อยากเห็นคนหนึ่งเข้าไปในคฤหาสน์แล้วประมาทจนทำให้กระจกตกแตกอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อหยิบเศษกระจกขึ้นมามอง เงาที่สะท้อนมานั้นไม่ใช่ของเขา แต่กลับเป็นของหญิงสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเคืองชนิดที่ทำให้คนที่เห็นต้องหนาวสันหลัง เขาวิ่งพร้อมกับกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวออกจากคฤหาสน์ไปในทันที
ในขณะเดียวกัน มีคนอีกมากมายที่อ้างว่าได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เฝ้ามองดูพวกเขาจากในกระจกเมื่อมองด้วยหางตา ทำให้หลายคนรีบหนีออกจากคฤหาสน์ด้วยความหวาดกลัวและคิดว่ายังเป็นโชคดีที่สามารถเอาชีวิตหนีรอดออกมาได้
เวลาผ่านไปนานหลายปี ข่าวลือที่น่ากลัวเกี่ยวกับบ้านกระจกก็ยิ่งแพร่กระจายไปทั่ว ตำนานเหล่านี้ดึงดูดให้ผู้คนมากมายเดินทางมาจากสถานที่อันห่างไกลเพื่อสำรวจคฤหาสน์ที่ทรุดโทรมในยามค่ำคืน ส่วนใหญ่เพียงแค่แสดงความกล้าของตัวเอง อีกส่วนหนึ่งต้องการหาข้อเท็จจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้เห็นเงาร่างของเด็กสาวที่ถูกฆาตกรรมปรากฏตัวในกระจกสักบาน!?
ฉันพบผู้หญิงประหลาดคนหนึ่งอยู่บนทางรถไฟ (เรื่องผีสั้น ๆ “ผู้หญิงบนทางรถไฟ”)