โทโยล (Toyol) กุมารทองชั่วช้า จอมกระหายเลือดในตำนานของประเทศมาเลเซีย
“โทโยล” (Toyol) หรือ “ยูทูล”มีความหมายถึง “หัวขโมยผู้ซุกซน” เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานและนิทานพื้นบ้านของประเทศมาเลเซีย กล่าวกันว่าเป็นวิญญาณของเด็กทารกที่เสียเสียชีวิตก่อนที่จะเกิด ถ้าหากให้เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย โทโยลก็ค่อนข้างจะคล้ายกับกุมารทองในประเทศไทยนั่นเอง
การถือกำเนิดของโทโยล
เมื่อทารกที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกเสียชีวิตลง บางศพอาจถูก “โบโมห์” หมอผีชาวมาเลเซียทำการชุบชีวิตให้กลับมายังโลกคนเป็นอีกครั้งโดยการใช้ศาสตร์มืด เมื่อกลายมาเป็นโทโยล ร่างกายของทารกก็จะดูแห้งคล้ายกับมัมมี่ มีผิวสีเขียวหรือสีเทา หัวโต หูแหลม ตาสีแดงและมีฟันที่แหลมคม โทโยลบางตัวมีลักษณะดูคล้ายกับสัตว์ประหลาดก็อบลินในตำนานของประเทศตะวันตก
เมื่อสร้างโทโยลสำเร็จแล้ว หมอผีก็จะนำร่างของมันใส่เอาไว้ในโหลแก้วแล้วนำไปเก็บเอาไว้ในที่มืดแสงสว่างสอดส่องไม่ถึงจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นต้องใช้งาน
การครอบครองและใช้งานโทโยล
หากใครเป็นเจ้าของครอบครองโทโยล ก็เสมือนกับได้ทำสัญญากับปีศาจ เนื่องจากโทโยลมีพฤติกรรมและอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเหมือนกับเด็กเล็ก ทำให้จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อให้โทโยลมีความสุข สนุกสนานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ โทโยลยังต้องการเครื่องเซ่นบูชา เช่น ของเล่น นม ขนมหวาและบิสเก็ต เป็นต้น แถมเจ้าของยังต้องมอบ “เลือดของตัวเอง” ด้วยการใส่นิ้วเข้าไปในปากของโทโยลเพื่อให้มันดูดกินเลือดตามเวลาที่กำหนดเอาไว้อย่างเหมาะสม ถ้าหากเมื่อไหร่ที่เจ้าของอิดออดไม่ยอมให้เลือด ในที่สุดโทโยลก็จะแอบออกไปทำการดูดเลือดจากนิ้วเท้าของสมาชิกคนอื่นในครอบครัวขณะที่นอนหลับด้วยตัวเอง
เมื่อมอบอาหารและเลือดให้จนโทโยลพึงพอใจ พวกมันก็จะตอบแทนเจ้าของด้วยการซุ่มซ่อนตัวอยู่รอบบ้านเพื่อคอยป้องกันเจ้าของจากผู้ที่ไม่หวังดี แต่ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของมักจะใช้งานโทโยลให้ออกไปทำธุระประเภทไม่สุจริต อย่างเช่น การโจรกรรมลักเล็กขโมยน้อยหรือก่อกวนศัตรูในตอนกลางคืน ซึ่งโทโยลเหมาะกับงานประเภทนี้มากเนื่องจากพวกมันมีขนาดเล็ก ทำให้การหลบหนีเป็นไปได้ค่อนข้างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม หากใครเป็นเจ้าของโทโยล ก็จะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต แถมลูกหลานทั้งหมดที่สืบทอดเชื้อสายก็ยังต้องรับสืบทอดการเป็นเจ้าของมันด้วยเช่นกัน หากเจ้าของคนแรกทำสัญญากับโทโยลโดยปราศจากความชัดเจนว่าสัญญาจะหมดลงเมื่อไหร่!?
การป้องกันตัวเองจากโทโยล
เชื่อกันว่า การทิ้งลูกหินเอาไว้รอบบ้าน หรือแขวนกระเทียมเอาไวที่ประตูบ้านสามารถจะทำให้โทโยลเสียสมาธิในการทำภารกิจของตัวเอง พวกมันจะหันมาเล่นกับสิ่งของเหล่านี้โดยลืมวัตถุประสงค์ในการไปเยือนบ้านหลังนั้นเหมือนกับเด็กที่ห่วงเล่น
นอกจากนี้ ถ้าหากต้องการเก็บรักษาเงินให้ปลอดภัยจากการลักขโมยของโทโยล ก็ต้องนำเงินไปเก็บเอาไว้ใต้เข็มหรือกระจก เพราะพวกมันกลัวเข็ม รวมไปถึงการกลัวที่จะเห็นเงาสะท้อนในกระจกของตัวเอง
ส่วนการกำจัดโทโยล สามารถทำได้สองวิธี ซึ่งต้องทำโดยเจ้าของมันเท่านั้น วิธีแรกคือนำมันไปฝังเอาไว้ในสุสานเพื่อให้ดวงวิญญาณของโทโยลได้พักผ่อนอย่างสงบ และอีกวิธีหนึ่งที่เด็ดขาดกว่าคือการโยนมันทิ้งลงไปในท้องทะเล
ตำนานที่น่าสนใจของโทโยล
เรื่องราวของโทโยลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศมาเลเซียเกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “บาชุก” เขาเป็นคนที่เกียจคร้านอย่างมากจนไม่สามารถทำงานให้มีความมั่นคงได้เหมือนกับคนอื่น แถมยังติดการพนันอย่างหนัก สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวที่ประกอบด้วยภรรยาและน้องสาวของเขาเป็นอย่างมาก
อยู่มาวันหนึ่ง เขาได้ทำการค้นหาทรัพย์สินข้าวของของปู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว จนกระทั่งได้พบกับกระเป๋าเดินทางเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกาะเต็มไปหมด เมื่อเปิดออกดู ข้างในบรรจุสิ่งที่ดูเหมือนกับมัมมี่ซากศพของเด็กทารก ทันใดนั้นเอง มันก็ลืมตาสีแดงขึ้นและบอกกับเขาว่าจะมอบพลังและทำตามความปรารถนาให้ แต่ต้องมอบอาหารให้กับมันเป็นการตอบแทนด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้น เขาก็ได้ส่งโทโยลให้ตระเวนไปทั่วหมู่บ้านในตอนกลางคืนเพื่อขโมยทรัพย์สินของผู้คน เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ร่ำรวยมากขึ้น โดยที่ไม่มีใครเอะใจเลยว่าเขาได้เงินทองมาจากไหน แต่แล้วโทโยลก็เรียกร้องอาหารมากขึ้น เช่น ต้องการแม่คนใหม่และต้องการดูดเลือดจากเต้าน้องสาวของเขาแทนนม เป็นต้น
เพื่อความปลอดภัย เขาจึงให้ภรรยาและน้องสาวออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ที่อื่น ทำให้โทโยลโกรธจัดและเข้าจู่โจมพร้อมกับดูดเลือดทุกหยดออกจากร่างของเขา จนเหลือเพียงซากศพที่แห้งเหี่ยวราวกับถูกตากแดด ลม ฝน มาเป็นระยะเวลานานหลายปี
อีกเรื่องราวหนึ่งเกี่ยวกับโทโยล เกิดขึ้นในปี 2006 ชาวประมงได้พบโหลแก้วติดอยู่ในอวนหาปลา ข้างในนั้นมีร่างสีดำขนาดเล็กที่ดูเหมือนจะเป็นทารกและยังมีดวตาสีแดง
เมื่อแน่ใจว่าเป็นโทโยล เขาจึงได้นำมันไปมอบให้กับหมอผี ก่อนที่ขวดดังกล่าวจะถูกส่งมอบต่อให้กับทางพิพิธภัณฑ์ ที่ทำการจัดแสดงอยู่พักหนึ่งก่อนที่ขวดดังกล่าวจะถูกนำไปโยนทิ้งกลับสู่ทะเล โดยที่ไม่มีรายละเอียดบอกเล่าเพิ่มเติมว่าทำไมพวกเขาถึงได้รีบร้อนกำจัดมันทิ้งเช่นนั้น!?