วานิ (Wani) เหล่ามังกรทะเล ที่อาศัยอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทรของประเทศญี่ปุ่น

วานิ (Wani) เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลในจุดที่ลึกที่สุด พวกมันมีลำตัวยาวคดเคี้ยว มีครีบ สามารถหายใจได้ทั้งในน้ำและบนบก นอกจากนี้ยังพลังในการแปลงกายเป็นมนุษย์ ทำให้ในประเทศญี่ปุ่นมีการบอกเล่าเรื่องราวที่บอกว่ามีหลายครั้งที่พวกมันตกหลุมรักกับมนุษย์...

 

พฤติกรรมของวานิ

            วานิ ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองมหาสมุทรและรับตำแหน่งเทพเจ้าแห่งท้องทะเล วานิอาศัยอยู่ในพระราชวังปะการังที่สวยงามส่วนลึกของมหาสมุทร ปกครองด้วยราชา (ริวจิน) และราชินีของเหล่าวานิ ทำให้สังคมของวานิมีการแบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจนคล้ายกับมนุษย์ในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าราชาแห่งเหล่าวานิสามารถควบคุมน้ำขึ้น-ลง และการไหลของน้ำในมหาสมุทร โดยใช้อัญมณีแห่งกระแสเวลา “คันจู” แล “มันจู”

 

ต้นกำเนิดของวานิ

            บันทึกเรื่องราวของวานิค่อนข้างเก่าแก่ เพราะมีการพูดถึงมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านักวิชาการจะไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้สักเท่าไหร่นัก เพราะยังไม่สามารถฟังธงได้ว่าต้นกำเนิดของมันเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นหรือมาจากวัฒนธรรมอื่น สาเหตุที่พวกเขาเชื่อเช่นนั้น เป็นเพราะวานิมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากกับตำนานพยัคฆ์แห่งประเทศจีน หรือพญานาคของประเทศอินเดีย แต่ความเชื่อในประเทศญี่ปุ่น วานิปรากฏตัวขึ้นหลายครั้ง แถมยังมีบทบาทในตำนานของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

 

ตำนานที่น่าสนใจของวานิ

            เรื่องราวของวานิที่มีชื่อเสียงที่สุด เกี่ยวกับ “โทยามะ ฮิเมะ” บุตรสาวของ “โอวะ ทัตสึมิ” เธอได้แต่งานกับชายคนหนึ่งที่มีนามว่า “โฮริ” เป็นน้องชายของหลานเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ “อมาเทราสุ” โดยเขามีน้องชายนามว่า “โฮเดริ”

            อยู่มาวันหนึ่งโอริได้ขอยืมเบ็ดตกปลาจากน้องชายและทำตะขอเบ็ดหาย น้องชายยืนยันให้เขาไปตามหาตะขอเบ็ดที่หาย เขาจึงไปที่มหาสมุทรและตามหาจนทั่วแต่กลับไม่พบ ในตอนนั้นเองที่เขากลับได้พบกับพระราชวังมังกร ที่ราชามังกร “โอวะ ทัตสึมิ” อาศัยอยู่ เขาจึงขอความช่วยเหลือจากราชามังกรในการตามหาตะขอเบ็ดและในที่สุด อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่พำนักอยู่ในพระราชวังมังกร เขากลับตกหลุมรักลูกสาวของเทพเจ้ามังกร “โทยามะ ฮิเมะ”

            ทั้งคู่แต่งงานกันและอาศัยอยู่ในพระราชวังใต้ท้องทะเลเป็นเวลาถึง 3 ปี แต่ในที่สุดเขาก็คิดถึงบ้านและอยากที่จะได้เห็นบ้านเมืองบนบกอีกสักครั้ง เขากับภรรยาจึงขึ้นไปบนบกพร้อมกับตะขอเบ็ดที่หายไป ในระหว่างที่อยู่บนบก เธอก็เจ็บท้องคลอดบุตรจึงขอให้สามีออกไปข้างนอก เพื่อที่จะได้กลับคืนร่างเดิมเพื่อทำการคลอด

            อย่างไรก็ตาม เขาอดสงสัยไม่ได้ จึงแสร้งทำเป็นออกไปข้างนอกแล้วลอบมองดูในห้องของภรรยาและเห็นเธอกลับไปเป็นงูตัวใหญ่ กำลังอุ้มทารกน้อยอยู่ ตอนนั้นเองที่เธอพบว่าตัวเองถูกแอบมองและโกรธอย่างมากที่เขาไม่ยอมทำตามที่พูด เธอจึงได้หนีกลับไปยังวังมังกร

 ส่วนโฮริกับบุตรชายนั้นก็ไม่มีใครเคยพบเห็นอีกเลย ซึ่งเชื่อกันว่าเด็กทารกน้อยได้เติบโตเป็นชายหนุ่มแล้วแต่งงาน “ทามาโยริ” แล้วมีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน ในภายหลังเด็กชายผู้สืบสายเลือดแห่งวานิคนนี้เองได้กลายมาเป็นจักรพรรดิองค์แรกของประเทศญี่ปุ่นที่มีนามว่า “จินมู”