ตำนานผีญี่ปุ่น ยามานาชิ โนะ ไค (Yamanashi no kai) วิญญาณประหลาดแห่งต้นแพร์ป่า
“ยามานาชิ โนะ ไค” (Yamanashi no kai) เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอันน่าขนลุกที่มักเกิดขึ้นตอนกลางดึกใกล้กับต้นแพร์ (Pear Tree) ที่เติบโตอยู่ในป่าลึกของประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาพหลอน ลูกไฟ เสียงประหลาดและเสียงของกลองไทโกะ เป็นต้น ทำให้บางครั้งมันก็ถูกเรียกว่าเป็นขบวนแห่ศพเหนือธรรมชาติที่นำพาความตายมามอบให้กับผู้ที่พบเห็น
เชื่อกันว่า ยามานาชิ โนะ ไค เป็นเรื่องเล่าขานจากตำนานนิทานพื้นบ้านของชิบาตะ ที่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดนิกาตะ
การปรากฏตัวและพฤติกรรมของยามานาชิ โนะ ไค
ยามานาชิ โนะ ไค จะเริ่มเกิดขึ้นไกลจากบริเวณต้นแพร์ที่พวกมันสิงสู่อยู่ จากนั้นเหตุการณ์เหล่านั้นก็จะเริ่มเข้าใกล้มาที่ต้นแพร์นั้นมากขึ้นเรื่อย ด้วยทั้งเสียงสุดหลอนและเสียงตีกลองที่คล้ายกับของขบวนแห่ศพแบบดั้งเดิม เมื่อมันมาถึงตนแพร์มันก็จะขุดหลุมฝังศพขึ้นบนดินด้านหน้าของต้นแพร์ที่เป็นจุดหมาย
การป้องกันตัวเองจากยามานาชิ โนะ ไค
ถ้าหากใครก็ตามอยู่ในป่า หรือกำลังอยู่ในหุบเขาเพื่อเก็บลูกแพร์แล้วได้ยินเสียงของขบวนแห่งศพดังกล่าวดังขึ้นควรรีบหาที่หลบภัยโดยเร็ว เพราะถ้าหากใครก็ตามที่ได้เห็นพวกมันก็จะต้องเสียชีวิต อันเนื่องมาจากยามานาชิ โนะ ไค พยายามจะจับคนเหล่านั้นกินเป็นอาหาร
ตำนานที่น่าสนใจของยามานาชิ โนะ ไค
เมื่อนานมาแล้ว มีสามีภรรยาและลูกชาย อาศัยอยูในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ในช่วงเวลานั้นเองผู้เป็นภรรยาได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ในช่วงเวลานี้เธอแพ้ท้องแล้วเกิดความอยากทานลูกแพร์ป่าเป็นอย่างมากจึงได้หยิบกระสอบใบใหญ่เดินทางเข้าไปในภูเขาเพื่อหาต้นแพร์
เธอเข้าไปในหุบเขาลึกจนกระทั่งพบกับต้นแพร์ที่สวยงาม บนพื้นเต็มไปด้วยลูกแพร์ที่สมบูรณ์ตกลงมาบนพื้น เมื่อเห็นเช่นนั้นเธอยินดีอย่างมากเลยเก็บลูกแพร์ใส่กระสอบกระทั่งพอใจสะพายไหล่และเตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน
อนิจจา เธอใช้เวลาในการเดินทางและเก็บลูกแพร์มากจนเกินไปหน่อย ทำให้ในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงทำให้เป็นเรื่องอันตรายที่จะเดินทางกลับ เธอเลยตัดสินใจผูกกระสอบเอาไว้กับกิ่งและปีนขึ้นไปนอนพักผ่อนบนต้นแพร์รอให้รุ่งเช้าค่อยเดินทางกลับ
ไม่นานนักหลังจากฟ้ามืด เธอได้ยินเสียงกลองและฉาบแห่ขบวนศพ ก่อนที่จะมีเสียงถามจากในขบวนว่าต้นแพร์ป่าอยู่ที่ไหน!?เสียงเหล่านั้นเริ่มใกล้เข้ามา พร้อมกับเสียงพูดว่า “นี่มัน! นี่มัน!” หลังจากนั้นเหล่าวิญญาณก็เริ่มขุดหลุมศพที่หน้าต้นแพร์
เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เห็นและได้ยินนั้นคือเหล่าวิญญาณที่ชั่วร้าย ด้วยความหวาดกลัวเธอจึงพยายามปีนหนีขึ้นไปบนต้นแพร์ให้สูงขึ้น แต่วิญญาณสังเกตเห็นและพูดว่า
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!? ข้าจะกินเจ้า”
พร้อมกับเอื้อมมือที่เย็นเฉียบลื่นไหลเข้าคว้าขาของเธอเอาไว้ ดึงกระแทกเข้ากับต้นไม้จนทำให้เธอเสียหลักตกลงมาจากต้นแพร์มาสู่พื้น และถูกพวกมันกลืนกิน
สามีและลูกชายออกค้นหาเธอไปจนทั่วภูเขาแต่ก็ไม่พบ พวกเขาค้นพบเพียงกระสอบใส่ลูกแพร่ที่ผูกติดอยู่กับต้นแพร์ ทำให้พวกเขามั่นใจว่าเธอจะต้องถูกวิญญาณชั่วร้ายจับตัวไปอย่างแน่นอน
หลายปีต่อมา ลูกชายของเธอเติบใหญ่ขึ้นพร้อมกับความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะทำการแก้แค้นให้กับมารดา เขาคว้าปืนขึ้นไปบนภูเขามุ่งหน้าไปยังต้นแพร์ที่เธอหายตัวไป ซ่อนตัวจนมืดกระทั่งได้ยินเสียงขบวนแห่ศพที่แปลกประหลาดเหมือนกับที่แม่ของเขาได้ยินในคืนนั้น
เขาเล็งปืนไปที่ขบวนแล้วยิง!
หลังจากเสียงปืนดังก้องหุบเขา พลันเมีเสียงหัวเราะอันน่าขนลุกดังขึ้นมาจากทิศทางที่เขายิง ดูเหมือนว่ากระสุนจะไม่เข้าเป้าอย่างที่ควร จากนั้นลูกไปขนาดใหญ่สีน้ำเงินก็ลอยมาหาเขาพร้อมกับเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!? ข้าจะกินเจ้า”
คราวนี้เขาเล็งยิงเปลวเพลิง กระสุนเข้าเป้าอย่างจังทำให้เกิดเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวดังขึ้น ก่อนที่เปลวไฟจะดับลง
เมื่อรุ่งเช้ามาเยือน เขาเข้าไปตรวจสอบดูว่าเมื่อคืนได้กินอะไรเข้า!? บริเวณนั้นเองที่เขาได้พบกับศพของ “มุจินา” ขนาดมหึมา เขาเลยแบกมันกลับไปที่บ้าน พร้อมกับจัดงานเลี้ยงฉลอง...