มนุษย์วานรแห่งชาตวา (Chatawa) แสนดุร้าย ที่พร้อมทำลายทุกสิ่งมีชีวิตที่เข้าใกล้ อมนุษย์ในตำนานเมืองของอเมริกา
ชาตวา (Chatawa) เป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของรัฐมิซิซิปปี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นหนึ่งในเส้นทางผ่านของรถไปที่จะแล่นไปยังรัฐหลุยเซียร์น่า ในอดีตชุมชนแห่งนี้มีผู้อาศัยอยู่ถึง 500 แต่ในปัจจุบันกลายมาเป็นชุมชนที่มีเพียงที่ทำการไปรษณีย์เท่านั้น
ในเมืองที่สงบสุขแห่งนี้ มีข่าวลือหรือตำนานเมืองเกี่ยวกับมนุษย์วานรแห่งชาตวา ที่วนเวียนอยู่ในผืนป่า อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของมันไม่ได้รับการพิสูจน์ตัวตนว่ามีจริงหรือไม่ เพราะในบริเวณนี้เต็มไปด้วยป่าและหนองน้ำที่เหมาะสำหรับการซ่อนตัวมากมาย ทำให้การค้นหาเป็นเรื่องที่แสนยากเย็น
เรื่องราวที่น่าสนใจของมนุษย์วานรแห่งชาตวา
เรื่องราวมีอยู่ว่า รถไฟของคณะละครสัตว์กำลังแล่นตามรางรถไฟสายกลางเก่าของรัฐอิลินอยศ์ไปยังรัฐนิวร์ลีนส์ อยู่จนกระทั่งไปตกรางที่ชาตวา บริเวณหนองน้ำแทนจิปาโฮ รถไฟขบวนนี้ขนสัตว์มาด้วยหลากหลายชนิด แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือมนุษย์ประหลาดที่เป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์กับสัตว์ร้ายประเภทลิง ที่มีนิสัยดุร้าย พร้อมโจมตีใส่ทุกคนและสัตว์ทุกตัวที่เข้าใกล้มันมากจนเกินไป ทำให้มันต้องถูกขังเอาไว้ในกรงเหล็กที่เป็นขบวนพิเศษสำหรับตัวเอง ในขณะที่รถไฟตกรางสัตว์เกือบทั้งหมดเสียชีวิตยกเว้นสัตว์ประหลาดกับลิงอีก 2-3 ตัว ที่หลบหนีเข้าไปในป่า
เชื่อกันว่าถ้าหากใครไปที่สะพานชาตวาในตอนกลางคืนของวันฮาโลวีน ขับรถไปจอดที่กลางสะพานดับเครื่องรถยนต์ (ขอแนะนำว่าควรเป็นรถบรรทุก) แล้วรอจนกว่ารุ่งเช้ามาเยือน ค่ำคืนนั้นจะได้พบกับความเงียบที่แสนน่าประหลาดจนน่าขนลุก หลังจากนั้นก็จะเริ่มได้ยินเสียงร้องครวญคราง เสียงร้องราวกับการหอนของลิงที่คล้ายกับเสียงไซเรน กิ่งก้านของต้นไม้ในความมืดมิดเริ่มสั่นไหว เสียงเคาะไม้ เมื่อเวลานี้มาเยือนให้รีบขับรถออกไปจากสถานที่แห่งนั้นให้รวดเร็วที่สุด ตอนนั้นเองที่จะเห็นสัตว์ประหลาดแห่งชาตวายืนอยู่ด้านหน้ารถ พร้อมกับเตรียมตัวจู่โจมใส่ผู้มาเยือนในฐานะของเหยื่อรายต่อไป...
การปรากฏตัวของมนุษย์วานรแห่งชาตวา
2-3 สัปดาห์หลังจากที่เกิดเหตุการณ์รถไฟตกราง ซิสเตอร์สองคนที่สอนอยู่ ณ โรงเรียนเซนต์แมรี่แห่งเดอะไพน์ หนึ่งในสถาบันทางการศึกษาชั้นนำที่ผู้ปกครองมากมายนิยมส่งลูกจากนิวออร์ลีนศ์ไปเรียนในสมัยนั้น อ้างว่าเห็นลิงอยู่บนต้นไม้ใกล้กับโรงเรียน ทำให้เกิดการจัดทีมค้นหาขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อตามจับมนุษย์วานรกลับมา แต่พวกเขาก็กลับมามือเปล่า
นักวิจัยอาถรรพ์เชื่อว่าเรื่องนี้อาจมีต้นกำเนิดมาจากมีนักเรียนหลายคนที่คิดถึงบ้านจนพยายามหลบหนี ดังนั้น เหล่านักเรียนรุ่นพี่จึงได้พยายามสร้างข่าวลือของสัตว์ประหลาดขึ้นมาเพื่อป้องกันการหลบหนี และนั่นอาจเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์วานรแห่งชาตวา
อย่างไรก็ตาม หลายปีต่อมาตำรวจทางหลวงคนหนึ่งที่มีที่ดินอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีข่าวลือของมนุษย์วานรแห่งชาตวา เขาสาบานว่าในขณะที่กำลังไถนาอยู่ในคืนหนึ่ง ไฟหน้ารถไถนาของเขาสาดแสงส่องให้เห็นสัตว์ที่มีขนดกตรงทั้งตัวปรากฏตัวขึ้น ก่อนที่จะหายวับไปตรงชายทุ่งของเขา หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยกลับไปที่ทุ่งนาเพียงลำพังอีกด้วย
ในปัจจุบันนี้ ยังมีพยานหลายคนอ้างว่าได้พบเห็นสิ่งมีชีวิตปริศนาที่มีขนาดใหญ่ ขนดก เมื่อมองจากไกลๆ คล้ายกับบิ๊กฟุต หรือไอ้ตีนโต หนึ่งในสัตว์ประหลาดปริศนาของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลกเดินไปตามหนองน้ำใกล้กับชาตวา
Gigantopithecus สิ่งมีชีวิตก่อนประวัติศาสตร์ที่อาจเป็นมนุษย์วานรแห่งชาตวาตัวจริง!?
นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์วานรแห่งชาตวา ที่จริงแล้วอาจเป็น Gigantopithecus หนึ่งในลิงยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนที่ได้สูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 100,000 ปีก่อน เมื่อพิจารณาจากขนาดกะโหลกศีรษะของมัน นักวิชาการมองว่าพวกมันอาจไม่ได้สูญพันธุ์ไป แต่ยังคงมีชีวิตอยู่โดยเป็นที่รู้จักกันในชื่อของมนุษย์วานรแห่งชาตวา หรือบิ๊กฟุต...
มัดตราสัง สยบวิญญาณร้ายหรือกุศโลบายสำหรับคนเป็น กับเรื่องราวน่าสนใจที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน...