ไทระ โนะ มาซาคาโดะ (Taira no Masakado) 1 ใน 3 ของวิญญาณพยาบาท ที่นำพาหายนะไปทั่วแผ่นดินญี่ปุ่น
.jpg)
ไทระ โนะ มาซาคาโดะ (Taira no Masakado) เป็นชื่อของซามูไรในสมัยเฮอัน เขาเป็นนักรบที่เก่งกาจและยังเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ที่เสียชีวิตในปี ค.ศ.940 หลังจากการเสียชีวิตปรากฏว่าวิญญาณของเขาได้กลายมาเป็นผีพยาบาทที่นำพาความพินาศไปทั่วประเทศญี่ปุ่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสามภูตผีพยาบาทที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์
เชื่อกันว่าไทระ โนะ มาซาคาโดะ อาจเป็นการกลับชาติมาเกิดใหม่ของ “สุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ” หนึ่งในวิญญาณอาฆาตที่น่าสะพรึงกลัว คำสาปที่กลับมาจุติใหม่นี้เอง ที่ทำให้เขาก่อการกบฏต่อองค์จักรพรรดิ
ประวัติของไทระ โนะ มาซาคาโดะ

ไทระ โนะ มาซาคาโดะ เกิดมาในตระกูลชั้นสูงที่ได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ในวัยเด็ก-หนุ่ม เขาก็ใช้ชีวิตอย่างไม่แสดงทีท่าว่าจะก่อปัญหาอะไร จนกระทั่งบิดาของเขาเสียชีวิตลงและผู้เป็นลุงพยายามที่จะขโมยที่ดินส่วนใหญ่ไป โดยอ้างว่าได้รับอำนาจเห็นชอบจากราชวงศ์
ข้อพิพาทนี้ได้กลายมาเป็นชนวนเหตุแห่งการสู้รบ ใน ค.ศ.935 ไทระ โนะ มาซาคาโดะ ถูกลุงและนักรบแห่งมินาโมโตะซุ่มโจมตี แต่ด้วยความเก่งกาจทำให้เขาสามารถเอาชนะได้อย่างไม่ลำบาก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ทำการตอบโต้ด้วยการเผาดินแดนของคนเหล่านั้น ทำลายบ้านเรือนและสังหารผู้คนอีกนับพัน
ไทระ โนะ มาซาคาโดะ ถูกเรียกตัวไปขึ้นศาลเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากญาติของนักรบแห่งมินาโมโตะที่เสียชีวิต ด้วยความเฉลียวฉลาด เขาสามารถแก้ต่างให้กับตัวเองและพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีเหตุผลจำเป็นในการสังหารนักรบเหล่านั้น ดังนั้น เพียงในเวลาไม่กี่เดือนต่อมา เขาก็ได้รับอภัยโทษและการนิรโทษกรรมทั่วไป เพื่อเป็นการระลึกถึงการเสด็จสวรรคตขององค์จักรพรรดิซูซากุ
เมื่อเดินทางกลับไปบ้าน เขาพบว่าตัวเองยังคงเป็นเป้าหมายของการโจมตี คราวนี้เป็นฝีมือพ่อตาและญาติ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังสามารถเอาชนะคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว และทำการร้องเรียนไปยังราชสำนักเพื่อขอหมายจับก่อนที่จะบุกเข้าไปในดินแดนของคนเหล่านั้นเพื่อทำการแก้แค้นอย่างชอบธรรม
ปี ค.ศ. 938 ไทระ โนะ มาซาคาโดะ ถูกศาลเรียกตัวอีกครั้ง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดในการทะเลาะวิวาทกับลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งที่เข้ามาทำร้ายเขา แต่เขากลับเพิกเฉยต่อคำสั่งเรียกตัว พร้อมกับเรียกระดมพลจำนวนมหาศาลเข้ารุกรานจังหวัดฮิตาชิ แล้วพิชิตอีกแปดจังหวัด พร้อมกับอ้างความชอบธรรมว่าเป็นการรุกรานที่ถูกต้องภายใต้เงื่อนไขของหมายจับ

เมื่อพิชิตดินแดนเหล่านั้นลงได้สำเร็จ ไทระ โนะ มาซาคาโดะมีวิธีการปกครองที่แตกต่างจากผู้มีอำนาจทั่วไปที่ดูถูกคนรากหญ้า เขาปฏิบัติกับผู้คนในดินแดนดีมาก จนทำให้ชาวนาจำนวนมากเห็นด้วยกับการกระทำ ให้การต้อนรับขาเป็นอย่างดี ความนิยมยกย่องที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย ทำให้ราชสำนักมองว่าไทระ โนะ มาซาคาโดะอาจเตรียมตัวเพื่อล้มล้างรัฐบาลและขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ของประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือข้อหากบฏต่อแผ่นดิน
กองกำลังนักรบ รวมไปถึงญาติของไทระ โนะ มาซาคาโดะ นำโดย “ฟูจิวาระ โนะ ฮิเดซาโตะ” ได้รับมอบหมายให้เป็นกองกำลังปราบกบฏ หลังจากนั้นกองทัพทั้งสองก็ได้เผชิญหน้ากันในจังหวัดชิโมสะ ในปี ค.ศ. 940 ด้วยการซุ่มโจมตีในตอนกลางคืน ทำให้กองทัพของไทระ โนะ มาซาคาโดะแตกพ่ายด้วยกำลังที่น้อยกว่าถึง 1 ต่อ 10 ในตอนนั้นเองที่เขาถูกเพื่อนและครอบครัวหักหลัง ตัดศีรษะของเขาเพื่อส่งกลับไปยังเมืองโตเกียว ก่อนที่จะถูกประจานเอาไว้ในตลาดฝั่งตะวันออกเพื่อส่งข้อความไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ตำนานสยองขวัญของไทระ โนะ มาซาคาโดะ

หลังจากศีรษะของไทระ โนะ มาซาคาโดะถูกนำมาประจาน สิ่งที่น่าแปลกใจอย่างมากคือ มันไม่ยอมเน่าเสียแม้เวลาจะผ่านไปนานหลายเดือน หัวยังคงดูสดใหม่เหมือนกับพึ่งถูกตัดขาดออกมาจากร่าง แถมนัยน์ตาก็ดูดุร้ายมากขึ้น ปากบิดเบี้ยวอย่างน่าสยดสยอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าขานว่าทุกคืนหัวของไทระ โนะ มาซาคาโดะจะตะโกนร้องออกมาว่า
“ร่างของฉันอยู่ไหน!? มานี่สิ สวมหัวของฉัน แล้วปล่อยให้ฉันต่อสู้อีกครั้ง!?”
หลังจากนั้นมานานนัก คืนหนึ่งศีรษะของไทระ โนะ มาซาคาโดะก็เริ่มเรืองแสงแล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้า มันล่องลอยไปทั่วประเทศ ก่อนที่มันจะเหนื่อยล้าจนไปพักผ่อนอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงที่มิซากิ ซึ่งภายหลังได้เติบโตกลายเป็นเมืองเอโดะ มีชาวบ้านมาพบเข้าจึงได้ทำความสะอาดแล้วนำไปฝังเอาไว้ และมีการสร้างศาลเจ้าขึ้นไว้บนหลุมชื่อว่า “คุบิซุกะ” หรือ “เนินศีรษะ”

ไทระ โนะ มาซาคาโดะได้รับการเคารพบูชาและให้เกียรติอย่างมากจากชาวนา ในฐานะของนักรบที่แท้จริง เขาได้รับการยกย่องเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมยืนหยัดต่อสู้กับเหล่าขุนนางทุจริตและเกียจคร้านอย่างกล้าหาญ ก่อนที่จะกลายเป็นคนตกอับจากการถูกหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่จะถูกขับไล่
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแม้ศีรษะจะถูกฝังไปแล้ว แต่วิญญาณของไทระ โนะ มาซาคาโดะ หาได้สงบไม่ ไม่กี่ปีหลังจากนั้น ก็ได้เริ่มมีการพบเห็นวิญญาณของซามูไรในบริเวณใกล้เคียงกับศาลเจ้า
ในช่วงต้นของ ค.ศ.1300 เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ขึ้นในเอโดะ ผู้คนมากมายพากันล้มตายเสียชีวิต เชื่อกันว่าโรคร้ายดังกล่าวเป็นเพราะความโกรธแค้นของไทระ โนะ มาซาคาโดะ เพื่อเป็นการปลอบประโลมวิญญาณอาฆาต จึงได้มีการย้ายศาลเจ้าเล็กๆที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเขาไปยังศาลเจ้าคันดะที่ใหญ่กว่า มีชื่อเสียงมากกว่าและอัญเชิญให้ดวงวิญญาณของเขาเป็นหนึ่งในเทพหลักของศาล ดูเหมือนว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยทำให้วิญญาณของเขาสงบลงชั่วคราว
ในปี ค.ศ.1874 จักรพรรดิเมจิ ได้เสด็จมาเยือนศาลเจ้าคันดะ ตอนนั้นเองที่ไทระ โนะ มาซาคาโดะ ผู้เป็นศัตรูกับทางราชวงศ์ได้ถูกถอดถอนจากการเป็นเทพหลักและศาลของเขาก็ถูกย้ายไปเก็บไว้ในอาคารเล็กนอกศาลเจ้าหลัก ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะไปปลุกความแค้นของไทระ โนะ มาซาคาโดะให้ปะทุออกมาอีกครั้ง

ปี ค.ศ.1928 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในคันโตทำลายเมืองไปมากมาย ทำให้ศาลเจ้าของไทระ โนะ มาซาคาโดะได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ทำการชั่วคราวของกระทรวงการคลัง แต่หลังจากมาทำการได้ไม่นานนัก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังก็ล้มป่วยจนเสียชีวิต หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อีกกว่าหนึ่งโหลก็พากันเสียชีวิตทั้งจากการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุในอาคาร ทำให้ข่าวลือเกี่ยวกับคำสาปแพร่กระจายไปทั่ว จนต้องรื้อถอนอาคารของกระทรวงทิ้ง พร้อมกับจัดพิธีรำลึกถึงไทระ โนะ มาซาคาโดะ ที่ศาลเจ้าคันดะ แต่ดูเหมือนจะเพียงช่วยบรรเทาความเกรี้ยวกราดได้เพียงเล็กน้อย เพราะตลอดศตวรรษที่ 20 เกิดอุบัติเหตุ เพลิงไหม้และอาการเจ็บป่วยลึกลับมากมายเกิดขึ้นทุกครั้งที่ทำพิธีกรรมชำระล้าง
หลังจากที่สาธารณชนเชื่ออย่างมากว่าสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากคำสาปแช่งของไทระ โนะ มาซาคาโดะ ในที่สุดในปี ค.ศ.1984 ไทระ โนะ มาซาคาโดะ จึงได้รับสถานะเทพของตัวเองคืน และทุกคนก็ให้ความเคารพต่อไทระ โนะ มาซาคาโดะ เป็นอย่างมาก พร้อมกับพยายามหลีกเลี่ยงที่จะทำให้วิญญาณของเขาโกรธขึ้นมาอีก นักแสดงที่สวมบทบาทเรื่องราวเกี่ยวกับเขา หรือรายการโทรทัศน์ที่ไปทำการรายการเกี่ยวกับหลุมศพของไทระ โนะ มาซาคาโดะ จะต้องไปแสดงควาเคารพกับเขาเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คำสาปแช่งอันแสนร้ายกาจหวนกลับคืนมาอีก...
