เรือนจำวิคโลว์ (Wicklow Gaol) ประตูแห่งนรก ณ คุกผีดุที่สุดของประเทศไอร์แลนด์

“เรือนจำวิคโลว์” (Wicklow Gaol) ได้รับการขนานนามอย่างน่าสะพรึงกลัวว่า “ประตูแห่งนรก” นับย้อนไปตั้งแต่เริ่มต้นประวัติศาสตร์ของตัวมันเองในช่วงปี 1798 ในฐานะของศูนย์กลางในการคุมขังและประหารชีวิตเหล่ากบฏ ชีวิตมากมายได้ถูกพรากไปจากด้านหลังของกำแพงหนาของเรือนจำวิคโลว์จนกระทั่งถึงปี 1843 ที่นักโทษคนสุดท้ายได้ถูกประหารชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือการที่เหล่าผู้คุมนำศพของนักโทษมาเลี้ยงเหยี่ยวของเรือนจำยิ่งทำให้เรื่องราวของเรือนจำวิคโลว์น่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
ในช่วงเวลาแห่งสงคราม เรือนจำวิคโลว์ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ของกองทหารในช่วงสงครามอิสรภาพและเป็นที่พักพิงของพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านสนธิสัญญาในช่วงสงครามกลางเมือง เรือนจำวิคโลว์ทำหน้าที่ของมันมาจนกระทั่งถึงปี 1924 ก่อนที่จะปิดประตูลงอย่างถาวร เหลือทิ้งเอาไว้เพียงประวัติศาสตร์แห่งความหวาดกลัวและโศกเศร้าเอาไว้จนถึงทุกวันนี้
เรื่องราวเกี่ยวกับความอาถรรพ์ของเรือนจำวิคโลว์

เรือนจำวิคโลว์ได้รับชื่อเสียงอันแสนมืดมนในฐานะสถานที่ที่มีผีสิงสู่มากที่สุดของประเทศไอร์แลนด์ ทั้งหนักงานและเหล่าผู้มาเยี่ยมชมมากมายได้มีอาสได้พบกับประสบการณ์อันน่าขนหัวลุกที่ท้าทายคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เช่น หมอกสีเขียวที่ล่องลอยอยู่ในอากาศบนชั้นหลักของเรือนจำ
บริเวณชั้นล่างของเรือนจำวิคโลว์มีผู้อ้างว่าได้พบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดกำมะหยี่สีดำร่อนตัวผ่านห้องโถงอย่างไร้เสียง เชื่อกันว่าวิญญาณดังกล่าวเป็นของผู้หญิงสองคนที่ถูกแขวนคอในปี 1792 และมีเยาวชนอีกเก้าคนถูกแขวนคอในปี 1820
ห้องขังหมายเลข 19 ดูเหมือนจะกลายมาเป็นจุดอาถรรพ์ที่น่าขนลุกมากที่สุด มีผู้อ้างว่าได้เห็นเงาร่างที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ชายเดินออกมาจากห้องขังดังกล่าวเป็นครั้งคราว มีรายงานว่าร่างเงาได้ก้าวเดินไปตามทางเดินที่มีแสงสลัว ๆ นอกจากนี้ ในห้องขังเดียวกันยังมีข่าวลือว่ามีร่างของผู้ชายคนหนึ่งเดินไปมาหน้าลูกกรง ซึ่งอาจเป็นสิ่งเตือนใจถึงดวงวิญญาณที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตด้วยความทุกข์ทรมานอยู่ภายในห้องขังที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นของ “เจมส์ แฮสกินส์” (James Haskins) นักโทษคนสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตในเรือนจำในปี 1843 โทษฐานฆาตกรรม ดูเหมือนว่าวิญญาณของเขายังคงเดินเตร่อย่างไร้จุดหมายอยู่ภายในห้องโถงของเรือนจำวิคโลว์ไปตลอดกาล
มีรายงานนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับได้พบเห็นร่างเงาและสิ่งที่อธิบายไม่ได้นับไม่ถ้วนที่สัญจรไปมาในห้องโถง ห้องขังและบริเวณต่าง ๆ ที่ได้เติมเต็มความน่าขนลุกของเรือนจำวิคโลว์ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีการปรากฏตัวของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ทำการแหย่ที่ขาและดึงเสื้อผ้าของแขกที่มาเยือนด้วยมือเล็ก ๆ ด้วยความซุกซน อีกทั้งยังมีการกล่าวถึงเสียงร้องของเด็ก ๆ ที่ดังขึ้นภายในเรือนจำที่ว่างเปล่า
ด้วยเรื่องราวอาถรรพ์มากมายที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำวิคโลว์ที่ความรุนแรง การซ็อตไฟฟ้าและทรมานนักโทษกลายเป็นเรื่องปกติทำให้ภายในเรือนจำแห่งนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน สิ้นหวัง จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ดวงวิญญาณมากมายจะยังคงถูกกักขังเอาไว้หลังกำแพงแห่งนี้จนปราศจากความไม่สงบไปตลอดกาล...
อาซึกิ บาบา (Azuki babā) แม่เฒ่าล้างถั่ว จอมกินเด็ก แห่งสายหมอก ผู้ขับขานบทเพลงอันแสนน่ากลัว ลวงคนข่างสงสัยมาพบกับจุดจบอันน่าสยดสยอง...

