เซนบิกิ โอคามิ (Senbiki ōkami) ตำนานบันไดที่เกิดขึ้นจากหมาป่า 1,000 ตัว ทำการต่อตัวเพื่อล่าเหยื่อบนต้นไม้สูงของประเทศญี่ปุ่น
เซนบิกิ โอคามิ (Senbiki ōkami) เป็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในนิทาน ตำนานและเรื่องเล่าของประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับหมาป่าฝูงใหญ่ที่ออกหากินในตอนกลางคืน จนมาพบเข้ากับนักเดินทางบนถนนทำให้พวกเขาต้องพากันหนีตายปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม่สูง
อย่างไรก็ตาม เหล่าหมาป่ากลับมีความเฉลียวฉลาดมุมานะอย่างมาก พวกมันปีนขึ้นไปบนหลังของกันและกันต่อตัวกันเป็นชั้นจนเหมือนกับ “บันไดที่มีชีวิต” ทำให้สามารถเข้าถึงตัวเหยื่อที่สั่นกลัวอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของต้นไม้
เมื่อเซนบิกิ โอคามิ เสร็จสิ้น จ่าฝูงหมาป่าที่ตัวใหญ่ที่สุด ฉลาดมากที่สุดก็จะปีนขึ้นไปปเพื่อเผชิญหน้ากับเหยื่อ อย่างไรก็ตามนักเดินทางก็สามารถที่จะต่อสู้กับมันได้ด้วยดาบ และหากพ่ายแพ้ มันก็จะปลอมตัวเป็นมนุษย์สักคนเพื่อกลับไปนอนพักรักษาตัวในบ้านของพวกเขา โดยที่ไม่มีใครสงสัย...
ตำนานที่น่าสนใจของเซนบิกิ โอคามิ
หนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงของเหตุการณ์เซนบิกิ โอคามิ เกิดขึ้นในจังหวัดโคจิ เรื่องเล่าว่ามีหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งต้องเดินทางไปเมืองนาฮาริทำให้ต้องเดินทางข้ามภูเขาในตอนกลางคืน ขณะเดินทางเธอกับโชคร้ายกลับต้องล้มป่วยและยังต้องเผชิญหน้ากับหมาป่าที่ออกหากิน
ก่อนที่เรื่องราวจะเลวร้ายลงไปกว่านั้น พนักงานส่งสินค้าที่เดินทางผ่านมาพอดีก็ได้ช่วยเธอให้รอดพ้นจากการจู่โจมของหมาป่า และช่วยให้เธอปีนขึ้นไปหลบภัยบนต้นไม้ หลังจากนั้นเขาก็ปีนตามขึ้นไปเพื่อช่วยเฝ้าดูแลเธอปลอดภัย
กลางดึก ฝูงหมาป่าพากันมารวมตัวรอบโคนต้นไม้ พวกมันพยายามปีนและกระโดดขึ้นกลางอากาศ แต่.. ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวของทั้งสองได้สำเร็จ หลังจากนั้น พวกมันก็ทำเรื่องที่ไม่น่าเชื่อนั่นคือการปีนขึ้นไปบนหลังของกันและกัน ราวกับกำลังสร้างบันไดที่มีชีวิต ความสูงของกองหมาป่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเกือบจะมาถึงจุดที่ทั้งสองอยู่ เขาจึงได้ชักดาบออกมาแล้วฟันใส่หมาป่า แต่ระยะของดาบสั้นเกินไป ในขณะเดียวกันหมาป่าก็ไม่สามารถจู่โจมใส่ในระยะห่างเดียวกันได้ หลังจากนั้นหมาป่าตัวหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมาว่า
“เรียกภรรยาช่างตีเหล็กจากซากิฮามะ!”
สิ้นคำ เหล่าหมาป่าก็พากันส่งเสียงร้องแสนโหยหวน ไม่นานนักก็มีหมาป่าสีขาวขนาดมหึมาสวมหม้อเหล็กต้มน้ำราวหมวกเกราะปีนขึ้นหลังของหมาป่าทุกตัวขึ้นไปเผชิญหน้ากับพวกเขา เมื่อมันอยู่ในระยะหวังผล เขาก็ฟาดดาบลงไปด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีปะทะเข้ากับหม้อต้มน้ำจนทำให้มันขาดแยกออกจากกันเป็นสองส่วน อึดใจต่อมพวกเขาก็ได้ยินเสียงหอนที่ฟังดูคล้ายกับของมนุษย์ดังออกมาจากหมาป่ายักษ์ และครู่ต่อมาหมาป่าทั้งหมดก็หายไป
เมื่อรุ่งเช้ามาเยือน มีนักเดินทางผ่านมา พวกเขาจึงร้องของความช่วยเหลือและขอให้นักเดินทางพาหญิงสาวไปส่งยังเมืองนาฮาริ ส่วนเขาก็สำรวจร่องรอยของหมาป่าจนกระทั่งพบรอยเลือดบนพื้นจึงเดินตามไปกระทั่งถึงซากิฮามะ รอยเลือดนำเขาไปจนถึงบ้านของช่างตีเหล็ก
เขาเคาะประตูและถามช่างตีเหล็กว่าภรรยาอยู่บ้านหรือไม่!? แม้ว่าช่างตีเหล็กจะสงสัยในคำถาม แต่ก็ตอบว่าเธอได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ เขาจึงเข้าไปในห้องนอน เมื่อเห็นร่างของภรรยาช่างตีเหล็กเขาจึงใช้ดาบฟันร่างของเธอเป็นชิ้นๆ และร่างนั้นก็ได้กลายมาเป็นหมาป่าสีขาวขนาดใหญ่แทนที่จะเป็นร่างของมนุษย์! หลังจากที่ค้นบ้านหลังนั้น ปรากฏว่าเขาพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนซ่อนอยู่ใต้พื้นไม้กระดานของบ้านรวมไปถึงกระดูกของภรรยาที่แท้จริงของช่างตีเหล็กด้วย!
ในปัจจุบันในเมืองซากิฮามะ ยังคงมีหอคอยที่ระลึกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศให้กับภรรยาของช่างตีเหล็กที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าเหล่าลูกหลานของช่างตีเหล็กในเรื่องเล่าขานล้วนมีเส้นผมที่แหลมแปลกประหลาดราวกับหมาป่าอีกด้วย...